รวมหนัง องค์บาก Ong bak ชะตากรรมเจาะจงทุกทุกอย่าง ลิขิตชีวิตขึ้นสู่จุดสูงสุด รวมทั้งพร้อมดับทุกชีวิตดำตรงลงลึกถึงปลายเหวสู่จุดต่ำสุด ขณะนั้นมันได้เจาะจงชีวิตของ เทียน วัยรุ่นวัตถุประสงค์โตขึ้นเป็นนักสู้ผู้เก่งราวกับบิดา พระยาสีหเดโช (ความสงบสุข พรหมศรี) นายทหารผู้ซื่อสัตย์ซึ่งจงรักภักดีต่อเหนือหัวผู้ซึ่งยอมได้ ต่อให้สละชีวิตตนเอง เพื่อป้องกันผืนแผ่นดินจากเหล่าผู้โกง แล้วก็คนทรยศแต่จากคำทำนายที่ว่าเมื่อใดที่เทียนซึ่งกำเนิดในเวลาพระรอยดำเจริญวัยภายใต้วังวนที่คมกระบี่รวมทั้งเหม็นคาวเลือด
เมื่อนั้นหลายคนชัดชัดถูกตายกันอปิ้งครบสมบูรณ์ ทำให้พระยาสีหเดโชตกลงปลงใจส่งเทียนไปให้ คุณครูบัว (นิรุตติ์ ศรีจรรยา) เพื่อนคู่หูซึ่งต่างเป็นลูกศิษย์ของพระครูปั้นมาด้วยกันช่วยบ่มเพาะสมาธิ ทำความเข้าใจการฝึกหัดจิตให้นิ่ง และเล่าเรียนในด้านวิชาโขนการร่ายรำ เพื่อหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนจิตใจให้กำเนิดแม้ว่าสิ่งที่ดีงามขึ้น โดยมี พิม เด็กผู้หญิงที่คุณครูบัวเก็บมาเลี้ยงรอคอยให้ความช่วยเหลือ และมี ไอ้เหม็น (รับประทาน จ๊กมก) ชายบ้าเลอะเลือน แต่ลุ่มหลงในการฟ้อนรำ เป็นเพื่อนเล่น
การฟื้นคืนชีวิตอีกครั้งของเทียน (จา พนม ยีรัมย์) ตอนหลังสูญเสียเพลงยุทธ์ และผู้คนอันเป็นที่รักที่ผาปีกครุฑไปจนถึงหมดไปจากการกวาดล้างของจอม ราชันย์ (ศรัณยู วงษ์กระจ่างแจ้ง) โดยได้รับความช่วยเหลือจากพิม (พริมรตา เดชะอุดม) และพลังเชื่อใจอันแรงกล้าที่หลอมรวมจากจิตอันบริสุทธิ์ของไอ้เหม็น (รับประทาน จ๊กม๊ก)และชาวหมู่บ้านสาขาวิชาโขน ทำให้เทียนได้สัมผัสด้านสว่างที่จิตใจโดยมีพระบัว (นิรุ ตติ์ ศรีจรรยา) คอยเสนอแนะจนตราบเท่าก่อให้เกิด “นาฏยุทธ์” ภายใต้สภาพการณ์ที่จิตอันสงบนิ่ง แต่ว่าเวลาเดียวกันจึงควรเจอหน้ากับเหล่ามือสังหาร ที่ล้วนแล้วแต่ยากสำหรับการประมือของจอมราชันย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งศัตรูที่น่าเกรงขามที่สุดของเทียน อย่าง ภูติ สางกา (สันโดษ ชูป่าษ์ ช่างปรุง)
รวมหนัง องค์บาก Ong bak
เกิดเรื่องราวของ ยอนกยู เป็นเด็กวัยรุ่นวัย 17 ปีที่เติบโตมาในเมืองแห่งหนึ่ง และไม่เคยออกไปจากที่นี่เลย ในช่วงเวลาที่จำต้องทนกับการใช้ความรุนแรกจากพ่อเลี้ยงของเขา เขาก็เริ่มคิดบัญชีด้วยความปรารถนาที่จะย้ายไปอยู่ที่เนเธอร์แลนด์กับผู้เป็นแม่ ส่วน ชีกน เป็นอีกหนุ่มอีกหนึ่งผู้ที่กำเนิดรวมทั้งโตมาในเมืองที่นี้ โดยในช่วงเวลานี้เขาเป็นนายจ้างระดับกึ่งกลางของหน่วยงานอาชญากรรมแห่งหนึ่ง โดยเข้าห้องเรียนมาตั้งแต่วัยเด็กว่าโลกนี้เป็นแดนนรก รวมทั้งเขาจะทำทุกสิ่งเพื่อหลุดพ้นจากมัน
นี่นับว่าเป็นผลงานเดบิวต์ในฐานะผู้กำกับอย่างเต็มกำลังของนักสร้างภาพยนตร์แบบใหม่ “คิมชางฮุน” คนที่มีประสบการณ์ในวงการหนังในงานตัดต่อภาพยนตร์มายาวนานหลายปี เขาปฏิบัติหน้าที่ดูแลรวมทั้งเขียนบทหนังประเด็นนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งจะต้องสารภาพว่าเพียงแค่งานชิ้นแรกก็เปิดตัวบรรทัดฐานที่ค่อนข้างจะตั้งเอาไว้ค่อนข้างจะสูงแล้วก็ดีเลิศอย่างยิ่งจริงๆ เนื่องจากนี่เป็นรายละเอียดดรามาที่แสนจะจัดจ้าในรายละเอียด พูดได้ว่าตลอดทั้ง 2 ชั่วโมงของหนังประเด็นนี้ คุณเกือบจะค้นหาความสำราญในหนังประเด็นนี้ไม่พบเลย
ในด้านงานสร้างแล้วก็ใช้ส่วนประกอบด้านโปรดักชันต่างๆนับว่าทำออกมาได้ออกจะ รวมหนัง องค์บาก Ong bak โดยยิ่งไปกว่านั้นการออกแบบฉากรวมทั้งสร้างบรรยากาศในหนัง ไม่ว่าจะมุมภาพ มุมกล้องถ่ายรูป จัดแสงสว่าง รวมทั้งย้อมภาพ ออกมาหมองหมองกับคอนเซ็ปต์ของเรื่องอย่างดีเยี่ยม ราวพวกเรานั่งดูหนังที่แทบหาแดดไม่เคยเลยสักซีนเดียว นับว่าเป็นการบรรลุผลในด้านการผลิตแล้วก็กระตุ้นอารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม
ทางด้านบทหนัง Hopeless คน จนกระทั่ง ซอย บางครั้งอาจจะยังค่อนข้างจะวนอยู่สำหรับการกลายเป็นผลึกในอ่างเซฟโซนไปสักนิดสักหน่อย เนื่องจากเอาจริงเอาจังๆพล็อตก็แทบมิได้มีความแปลกใหม่อะไรมากแค่ไหนเลย มันเป็นความดรามาแบบหมองๆที่ขับเคลื่อนด้วยความประพฤติปฏิบัติของคนเราที่เป็นสิ่งที่พวกเราบางทีก็อาจจะเคยได้เห็นมาแล้วบ้าง จากผลงานหนังแนวนี้เรื่องที่ผ่านมาสัก 10-20 ปีที่ล่วงเลยไป ด้วยเหตุนั้นบทหนังบางครั้งอาจจะมิได้หวือหวาอะไรมากเท่าไรนัก
แต่ว่ามันถูกสนับสนุนออกมาได้ค่อนข้างจะไปถึงเป้าหมาย เพราะเหตุว่าส่วนประกอบทางการแสดงล้วนๆเปลี่ยนเป็นว่า Hopeless คน จนถึง ซอย มีความสะดุดตาแล้วก็ความพรีเมียมขึ้นเนื่องจากท่าทางการแสดงจริงๆหนังได้ศิลปินเบอร์ใหญ่ อย่าง “ซงจุงกิ” ที่นับได้ว่าเป็นหนึ่งในแม่เหล็กที่มาช่วยเกื้อหนุนหนังประเด็นนี้เอาไว้ได้อย่างทรงอำนาจ ด้วยท่าทางการแสดงที่น้อยแม้กระนั้นมากมาย แบบความเป็นผู้แสดงมือโปรของเขา ใช้จังหวะลีลารวมทั้งสายตาสำหรับในการแสดงออกมาได้ออกจะดี
Killers of the Flower Moon
Killers of the Flower Moon เกิดเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยปี 1920s เมื่อนํ้ามันถูกศึกษาและทำการค้นพบที่เมืองโอคลาโฮมา ในพื้นที่ของคนท้องถิ้นโอเซจ กระทำการพวกเขาเริ่มถูกแทรกซึมจากคนขาวที่เข้ามาตั้งภูมิลำเนาและก็หยาบสำหรับในการสร้างธุรกิจ ก่อนที่จะเอามาสู่เหตุเรื่องเศร้าสม่ำเสมอที่ชาวโอเซจก็เลยถูกฆ่าไปครั้งละคน จวบจนกระทั่งข้าราชการหน่วยไต่สวนกึ่งกลางเข้ามาไขปัญหาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างก็เลยแปลงเป็นมหรสพโรงใหญ่
แล้วจุดไฮไลต์ที่สะดุดตาจุดๆของหนังประเด็นนี้ ก็น่าจะหนีไม่พ้นกับขยายความยาวของหนังที่ยาวถึง 3 ชั่วโมง 20 นาทีเศษๆถือว่าเป็นหนังอีกหัวข้อในประวัติศาสตร์แวดวงหนังฮอลลิวูดที่สร้างออกมาได้ยาวเฟื้อยขนาดนี้ แต่ว่าแม้หนังจะยาวมากมายๆเท่านี้ แม้กระนั้นก็ยังสามารถผลักรั้งผู้ชมเอาไว้ภายในตรึงตาตรึงใจกับภาพบนหน้าจอได้อย่างอยู่มือ แปลงเป็น 3 ชั่วโมงกว่าๆที่ราวกับตกอยู่ในภวังค์ที่เต็มไปด้วยอรรถรสที่อร่อย
โดย Killers of the Flower Moon ได้ดัดแปลงแก้ไขสร้างขึ้นจากนิยายชื่ดังของ “เดวิด มึงรนน์” ที่พิมพ์ในปี 2017 ซึ่งในคราวนี้ได้ผู้เขียนความสามารถระดับรางวัล “อิไล ร็อธ” มาช่วยเขียนบทให้ ร่วมกับ มาร์ติน สกอร์เซซี ที่ร่วมช่วยปลุกปั้นบทหนังหัวข้อนี้ออกมาได้อย่างมีมนต์ขลังอย่างน่าทึ่ง ต้นฉบับนิยายของหนังประเด็นนี้อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดความยาวกว่า 350 หน้า ก็ไม่น่างงงวยสักเท่าไหร่นักที่พอเพียงมาขึ้นหน้าจอใหญ่จะใช้เวลาช้านานเท่านี้
แน่ๆว่า มาร์ติน สกอร์เซซี ก็ยังคงละเลงแต่งแต้มผลงานของเขาด้วยลีลาท่าทางอันเป็นสไตล์แบบผู้กำกับชั้นเอก ที่มากับงานสร้างที่ออกจะละเอียดรวมทั้งบรรจงในทุกๆนาทีที่ถ่ายทอดออกมา แม้ว่ากันถึงเค้าเรื่องนั้น ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า Killers of the Flower Moon ค่อนข้างจะพิจารณาเรื่องราวออกมาได้เพลิดเพลินแล้วก็ถูกใจเจริญตลอดทั้งเรื่อง
The Burial ความยุติธรรมที่ถูกฝัง
The Burial ความเป็นธรรมที่ถูกฝัง ได้รับแรงบันดลมาจากความจริงของคดีภาระข้อตกลงของแวดวงการเผาศพในอเมริกา พบเรไมห์ โอคีฟ เจ้าของธุรกิจการปลงศพที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ได้ตกลงใจว่าจ้างทนายผิวสี วิลลี มึงร์รี มาช่วยกู้เหตุการณ์ธุรกิจครอบครัว ประมือกับหน่วยงานยักษ์ใหญ่ที่บริหารเอาเปรียบบนความทุกข์ทรมานของคนอื่นๆ เปลี่ยนเป็นการต่อสู้ในชั้นศาลที่เต็มไปด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านรวมทั้งเสียงหัวเราะ ที่เอามาสู่ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของสังคมรวมทั้งเชื้อชาติที่อยู่ด้วยกัน
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับหญิง “แม็กกี เบ็ตต์ส” ที่ยังคงเน้นย้ำสร้างภาพยนตร์ที่ปลุกแรงผลักดันให้กับผู้ชมอีกเหมือนปกติ โดยคราวนี้คุณยังมีส่วนร่วมสำหรับการเขียนบทด้วย แล้วก็ถือว่าเป็นหนังเชิงการค้าเรื่องแรกๆในอาชีพของคุณ ภายหลังที่เคยสั่งสมประสบการณ์ทำหนังฟอร์มเล็กๆกับหนังสั้นมาบ้างเล็กน้อยในตอนสิบปีให้หลัง
ดังนี้ The Burial ความชอบธรรมที่ถูกฝัง บางทีอาจจะเป็นดรามาข้อบังคับที่แทบมิได้มีท่วงทีอะไรบ้างในแง่ความแปลกใหม่ในตนเอง โหมดของการเล่าเรื่องและก็เค้าเรื่องก็ค่อนข้างจะใช้สูตรสำเร็จของหนังแนวๆนี้แบบเดิม กิมไม่กลูกเล่นต่างๆก็มิได้ประยุกต์ใช้เยอะมากอะไร มันเป็นการร้อยเรียงเรื่องไปแบบเรื่อยเป็นลำดับขั้นตอนที่ต้องเป็น ซึ่งถ้าเกิดผู้ใดกันมิได้ถูกใจหนังแนวที่กล่าวเยอะแยะและก็เต็มไปด้วยไถ่ถามในชั้นศาล คุณอาจจะรู้สึกเบื่อรวมทั้งปิดหนีไปกลางทางได้
แต่ว่าในเมื่อพล็อตใส่เข้ามาแบบปกติอย่างงี้ ถือว่าโชคดีที่ The Burial ความถูกต้องที่ถูกฝัง มีความทรงอำนาจอยู่ที่องค์ประกอบในเรื่องราวของตนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากหนังประเด็นนี้แทรกสอดเรื่องการคดโกงคดโกง แล้วก็ความไม่ชอบธรรมที่ได้มีผลกระทบต่อผู้คนออกจะวงกว้าง โน่นก็เลยเป็นจุดซึ่งสามารถอิมแพคสตอปรี่ให้มีปฏิกิริยาต่อผู้ชมได้ในระดับที่น่าพึงพอใจ
ถึง The Burial ความเป็นธรรมที่ถูกฝัง รวมหนัง องค์บาก Ong bak จะออกจะสร้างออกมาเช่นเดียวกับหนังที่ออกฉายทางโทรทัศน์ไปสักนิดสักหน่อย แต่ว่าอย่างต่ำๆหนังก็ยังใส่จังหวะที่ค่อนข้างจะโอเคใช้ได้เข้ามาเรื่อยเพียงแค่มิได้มีเชิงชั้นที่สลับซับซ้อนอะไร ที่เพียงพอจะก่อให้หนังถูกยกฐานะแตะต้องไปถึงชั้นงานประสิทธิภาพขนาดนั้น เป็นหนังข้อบังคับที่ทำออกมาได้ตามมาตรฐานที่ควรเป็น
The Conference สัมมนาเลือด
The Conference ประชุมสัมมนาเลือด เล่าราวของข้าราชการที่ทำการเทศบาลกรุ๊ปหนึ่งที่เดินทางมาจากพื้นที่และก็พื้นเพ เพื่อร่วมงานประชุมสัมมนาและก็เชื่อมเกี่ยวข้องกันนอกสถานที่ที่เสมือนจะเป็นหลักที่ที่ไม่มีอันตรายใดๆก็ตามแต่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องมาต่อสู้กันสังหารตนเองให้รอด กับเจอหน้าคนร้ายปัญหาที่แสนหิวเหลือด จากการปรึกษาหารืองานราชการมาสู่การวางเป้าหมายหนีตายจากไอ้บ้า พวกเขาจะเหลือรอดไปได้สักกี่คน..?
หนังประเด็นนี้ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสร้างจากนิยายทริลเลอร์ขายดิบขายดี ความสามารถการเขียนของ “แมตส์ สแตรนด์เบิร์ก” ที่จำต้องสารภาพเลยว่าคอนเซ็ปต์เรื่องราวต้นฉบับของเขาค่อนข้างจะมีกิมไม่กที่แสบสันต์ไม่น้อย โดยยิ่งไปกว่านั้นเสน่ห์อารมณ์ขบขันร้ายของหัวข้อนี้ ที่แทรกสอดใจความสำคัญเสียดสีชนชั้นสังคมได้อย่างคมคาย บนฐานรากความเขย่าขวัญรวมทั้งหนีตายจากภัยที่กำลังไล่ล่าถึงทุกๆผู้แสดง
โดยหนังประเด็นนี้ได้ “แพทริก เอ็คลุนด์” ผู้กำกับชาวประเทศสวีเดนที่ส่งผลงานโทรทัศน์ซีรีส์เขตแดนหลายๆเรื่อง เว็บรีวิวพนัน เดิมพันออนไลน์ และก็จัดว่าการคัมแบ็กกลับมาทำหนังยาวในรอบสิบปีของเขา กับร่วมปฏิบัติหน้าที่ดัดแปลงแก้ไขเขียนบทหนังหัวข้อนี้ด้วย หากว่าหนังจะค่อนข้างจะใส่สูตรสำเร็จตามสไตล์หนังไล่ฆ่าแนวๆนี้ ที่ทำให้มีการปูเงื่อนนักแสดงในตอนแรกค่อนข้างจะนานพอควร คงจะโดยประมาณครึ่งเรื่องเลยก็ว่าได้
แม้กระนั้นแม้ว่าจะเป็นการปูทางที่ออกจะยาวไปสักนิดสักหน่อย รวมหนัง องค์บาก Ong bak แม้กระนั้นก็นับว่าหนังสามารถทำให้ผู้ชมรู้จักและก็เข้าถึงลักษณะนิสัยของนักแสดงหลักทุกๆตัวได้อย่างคุ้นเคยเพิ่มขึ้น ถือว่าโชคดีที่แต่ละติดอยู่แรกเตอร์มีลักษณะที่เด่นไม่เหมือนกันไป แต่ละผู้แสดงเต็มไปด้วยมิติ รัก โลภ โกรธ สารเลว อันเป็นธรรมชาติมนุษย์ รวมทั้งโน่นทำให้ผู้ชมได้ซึบดูดซับความรังเกียจของค้างแรกเตอร์ต่างๆได้อย่างมาก
เรียกว่าโปรดักชันหนังแล้วก็ซีรีส์ในแถบสแกนดิเนเวียในยุคนี้นับว่าเริ่มปรับปรุงขึ้นเรื่อยรวมทั้งผลงานของพวกเขาก็เริ่มจะไปถึงเป้าหมายในระดับสากลวงกว้างมากเพิ่มขึ้นด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ The Conference จะเป็นเพียงแต่หนังทริลเลอร์เรื่องหมูๆๆที่มิได้มีส่วนประกอบงานสร้างที่หวือหวาละลานตาอะไร แต่ว่าพวกเขาก็ทำมันออกมาได้ค่อนข้างจะใช้ได้ ในทางการผลิตบรรยากาศความหรรษาหฤโหดตามเนื้อเรื่อง
The Conference จัดว่ามาพร้อมกับงานสร้างตามมาตรฐานของหนังแถบนี้ งานภาพอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีลูกเล่นไม่มากแค่ไหน ด้วยภาวะพื้นที่เขตแดนที่ทำให้โทนภาพของหนังค่อนข้างจะอึมครึม แม้กระนั้นโน่นก็ช่วยสนับสนุนความน่ายำเกรงให้กับหนังหัวข้อนี้ได้อย่างดีเยี่ยม โปรดักชันวางแบบต่างๆก็น่าพึงพอใจเหมือนกัน แล้วก็งานดนตรีประกอบที่ช่วยบิวท์อารมณ์และก็จังหวะของหนังได้อย่างมุ่งมั่น